รักษาการผู้จัดการทีมสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี กุส ฮิดดิ้งค์ เชื่อว่า จอห์น เทอร์รี่ สมควรจะได้รับการอำลาอย่างอบอุ่น ถึงแม้เขาจะถูกแบนไม่ให้ลงเล่นในลีคสองเกมสุดท้ายของซีซั่นนี้
เทอร์รี่ ในวัย 35 ปี กำลังจะต้องอำลาถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในช่วงซัมเมอร์นี้หลังจากที่เขาไม่ได้รับการต่อสัญญาจากสโมสรต้นสังกัด
อย่างไรก็ตามทางสโมสรเชลซีเผยว่าทางต้นสังกัดยังมีโอกาสที่จะมอบสัญญาฉบับใหม่ให้กับกัปตันของทีมรายนี้อยู่
“ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือเขาจะไป เขาสมควรได้รับการอำลาอย่างสมเกียรติ” กุส ฮิดดิ้งค์ กล่าว
ณ ตอนนี้ยังไม่มีประกาศจากทางสโมสรเชลซีแต่อย่างใด อีกทั้งเขายังจะไม่ได้ลงเล่นให้ทีมในสองนัดสุดท้ายที่จะต้องพบกับทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล และ แชมป์ลีคล่าสุดอย่างเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเขาถูกแบนจากใบแดงในเกมที่พบกับทีมแมวดำ ซันเดอร์แลนด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา แฟรงค์ แลมพาร์ด และ แอชลี่ โคล์ ก็อำลาทีมสิงโตน้ำเงินครามโดยไม่ได้มีพิธีการอำลาแต่อย่างใด
“คนที่กำลังตัดสินใจมักจะต้องการเวลาสักพัก มันขึ้นอยู่กับตัวของเขาเหล่านั้น” ฮิดดิ้งค์ กล่าว
“นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะมีดราม่า หรือการบีบคั้นแต่อย่างใด แต่ทุกๆคนนั้นล้วนมีวิธีการจัดการกับสิ่งต่างๆด้วยวิธีของตอนเอง”
“มันไม่ใช่การจากลาของนักเตะอย่างถาวร เพราะผมคิดว่าในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเขาก็ยังอยู่ในความทรงจำของสโมสร”
จอห์น เทอร์รี่ เดบิวต์กับทีมเชลซีเมื่อปี 1998 และได้ลงเล่นให้ทีมมาแล้ว 703 นัดในทุกๆรายการ
อย่างไรก็ตาม ฮิดดิ้งค์ ออกมายอมรับว่า การตัดสินใจในเรื่องของอนาคตของ จอห์น เทอร์รี่ นั้นไม่ได้อยู่ที่เขา เนื่องจากกุนซือคนใหม่อย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ จะเข้ามาคุมทีมแทนเขาในซัมเมอร์นี้
“ในสายตาของผมนั้น จอห์น เทอร์รี่ ยังคงมีความฟิต เขายังมีความสามารถพอที่จะลงเล่นให้กับทีม และเขาก็ยังมีความสามารถพอที่จะเล่นให้ทีมในฤดูกาลต่อไป” ฮิดดิ้งค์เสริม
“ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน และจะได้อยู่รับใช้สโมสรต่อไปหรือไม่ในอนาคตนั้น ผมไม่มีสิทธ์ที่จะตัดสินใจได้”
ตั้งแต่เริ่มค้าแข้งให้กับสโมสรเชลซีเมื่อ 18 ปีที่แล้ว เทอร์รี่ ลงเล่นให้กับทีมไป 483 เกมในพรีเมียร์ลีค, ได้แชมป์ลีคกับทีม 4 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 5 สมัย, แชมป์ลีคคัพ 3 สมัย, แชมป์ยูฟ่าปี 2012, และแชมป์ยูโรป้า 2013
เขายังลงรับใช้ชาติสิงโตคำรามไป 78 นัด ก่อนที่จะต้องอำลาทีมชาติไปในปี 2012 สืบเนื่องจากบทลงโทษจากกรณีเหยียดสีผิวใส่แอนทอน เฟอร์ดินานด์
