การดีเบตกันในรายการของสองอดีตกองหลังอย่าง เจมี่ คาราเกอร์ และ แกรี่ เนวิลล์ ในรายการ เดอะ ดีเบต เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา
สำหรับ 2 ปีที่ผ่านมาภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คลอปป์ ในถิ่น แอนฟิลด์ นายใหญ๋ชาวเยอร์มันรายนี้เข้ามาเปลี่ยนแปลง ลิเวอร์พุล ไปเป็นอย่างมากแบบไม่ต้องสงสัย แต่ก็เกิดคำถามที่ว่าเขายังไม่เคยพาทีมคว้าถ้วยรางวัลใดๆได้เลย
หลังในปี 2016 พวกเขามีลุ้นแชมป์ ลีกคัพ และ ยูโรป้าลีก ในรอบรองชนะเลิศที่ต้องอกหักไป และ นี้ถือว่าเป็นฤดูกาลแรกของเขาที่ แอนฟิลด์ กับโอกาสที่ยังเหลืออยู่ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
คาราเกอร์ กล่าวว่า “ความกดดันจะเริ่มขึ้นเมื่อในช่วง 12 เดือนจากนนี้หากเขายังคงไม่มีถ้วยแชมป์ โดยอดีตกองหลังรายนี้เชื่อว่าการรักษาเส้นทางในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ที่มั่นคงจะช่วยสนับสนุนผู้สนับสนุนเสียงเชียร์ต่อไปในระยะสั้น”
“กับ เจอร์เก้น คลอปป์ ผมคิดว่าจะมีการกดดันในปีหน้าขึ้นอยู่กับว่า ลิเวอร์พูล จะอยู่ที่ไหน แต่ถ้าเขาได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้ผมคิดว่ามันเป็นฤดูกาลที่ดีมากสำหรับลิเวอร์พูล”
“คุณสามารถพูดคุยเกี่ยวกับการคว้าถ้วยรางวัล พรีเมียร์ ลีก ได้แต่ ลิเวอร์พูล ต้องกลับไปเป็นสโมสรในระดับแชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อน”
“ลิเวอร์พูลเคยอยู่ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สองครั้งในรอบ 10 ปี”
“ดังนั้นหาก คลอปป์ สามารถทำได้อีกครั้งในฤดูกาลนี้หลังจากที่ได้ผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่และ มีอันดัยในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกที่ดีแบบนี้ได้แล้วนี่ถือเป็นผลสำเร็จ”
“โค้ชต่างชาติอย่าง คลอปป์ กับ มูรินโญ่ ต่างก็มีประสบการณ์ใน พรีเมี่ยร์ ลีก มาพร้อมๆกันส่วน เวนเกอร์ เขาอยู่กับทีมมานานกว่า”
“ดังนั้นถ้าเขาสามารถรักษาแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้ในสองฤดูกาลแรกของแบบเต็มรูปแบบ มันจะเป็นงานที่ดีจริงๆ แต่แน่นอนว่าเขาต้องพยายามต่อไป และ พยายามชนะถ้วยรางวัลให้ได้ก่อน”
“เหมือนทีผมเคบวิพากษ์วิจารณ์ เวนเกอร์ จากการอยู่ในท็อปโฟร์เป็นเวลานาน และ ไม่ได้ก้าวต่อไปใน ลีกหรือ แชมเปี้ยนส์ ลีกเลย”
“ถ้า คลอปป์ ยังคงอยู่ในสี่อันดับแรกในรอบ 4 หรือ 5 ปี ต่อไป และ ยังคงไม่ได้ใกล้เคียงแชมป์ หรือแชมเปี้ยนส์ ลีก ซผมว่าเขาก็ยังไม่ดีพอ”
“แต่ตอนนี้ถ้าเขาสามารถเปลี่ยน ลิเวอร์พูล ให้เป็นทีมที่เล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีในปีที่ออกพร้อมกับความหวังที่แฟนลิเวอร์พูลจะมีความสุขมากขึ้น”
สำหรับศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017-18 รอบน็อกเอาต์ รอบ 16 ทีมโดยมี 5 ทีมจากอังกฤษ เข้ารอบมากที่สุดในรอบนี้ ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, ทอตแนม ฮอตสเปอร์ และ เชลซี ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2003-04
